(ขอบคุณ ข้อมูลจาก Chat GPT)
เรอิกิ (Reiki) เป็นศาสตร์การบำบัดที่เน้นการใช้พลังงานธรรมชาติช่วยเสริมสร้างสมดุลร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยผู้ฝึกจะใช้การส่งพลังงานผ่านมือเพื่อกระตุ้นการรักษาตัวเองของร่างกาย โดยมีหลักสำคัญคือการเชื่อมต่อพลังงานสากล (Universal Energy) เข้ากับร่างกายของผู้รับพลังงาน
หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้เรอิกิในการดูแลตัวเอง สามารถทำได้ดังนี้:
1. เรียนรู้พื้นฐานเรอิกิ
- ศึกษาแนวคิด: เรอิกิมีพื้นฐานมาจากการเชื่อมต่อพลังงานผ่านช่องทางพลังงาน (Chakras) และเส้นพลังงานในร่างกาย
- ฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญ: หากยังไม่เคยฝึกเรอิกิ ควรเริ่มเรียนจากครูเรอิกิที่ผ่านการรับรอง เพื่อให้เข้าใจการใช้พลังงานอย่างถูกต้อง
- ได้รับการปรับพลังงาน (Attunement): เป็นขั้นตอนสำคัญที่ครูเรอิกิจะปรับการเชื่อมต่อระหว่างพลังงานธรรมชาติและตัวคุณ ทำให้คุณสามารถใช้เรอิกิได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ฝึกเรอิกิด้วยตัวเอง
เมื่อคุณได้รับการปรับพลังงานแล้ว สามารถเริ่มดูแลตัวเองด้วยเรอิกิผ่านขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้:
การเตรียมตัว
- หาสถานที่สงบ: เลือกที่เงียบสงบและสะอาด เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลาย
- ตั้งเจตนา (Set Intention): ตั้งจิตเพื่อการรักษา เช่น “ฉันจะฟื้นฟูสมดุลในร่างกายของฉัน”
- สร้างสมาธิ: นั่งหรือนอนในท่าสบาย ๆ หลับตาและผ่อนคลาย
ขั้นตอนการฝึกเรอิกิ
- เปิดพลังงาน (Activate Energy)
- ถูฝ่ามือทั้งสองเข้าด้วยกันเพื่อกระตุ้นพลังงาน
- วางมือไว้ที่หัวใจ ตั้งจิตรับพลังงานจากจักรวาลผ่านฝ่ามือ
- ส่งพลังงานสู่ตัวเอง
- ใช้มือทั้งสองวางบนจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เริ่มจากศีรษะ หน้าอก ท้อง ไปจนถึงขา
- จับความรู้สึกถึงความร้อนหรือการสั่นเบา ๆ ที่ฝ่ามือ (เป็นสัญญาณว่าพลังงานกำลังไหล)
- ตั้งจิตเพื่อความสมดุล
- ใช้เวลาในแต่ละจุดประมาณ 2-5 นาที หรือจนกว่ารู้สึกสมดุล
- หายใจลึก ๆ และปล่อยพลังงานเข้าสู่ร่างกายอย่างสงบ
การปิดพลังงาน
หลังจากบำบัดตนเองเสร็จ:
- ขอบคุณพลังงานธรรมชาติ
- ถูฝ่ามือเบา ๆ แล้วนำมาสัมผัสที่ใบหน้าเพื่อปิดการรักษา
3. สร้างความสมดุลในชีวิต
- ฝึกเรอิกิประจำวัน: วันละ 10-15 นาทีจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพและความสมดุล
- เสริมสมาธิและการหายใจ: ช่วยให้คุณเปิดรับพลังงานธรรมชาติได้ดีขึ้น
- ใช้เรอิกิในชีวิตประจำวัน: นอกจากการรักษาตัวเอง คุณสามารถใช้เรอิกิช่วยลดความเครียด หรือส่งพลังงานดี ๆ ให้ผู้อื่นได้
4. รับการบำบัดเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณยังไม่มั่นใจในฝีมือตนเอง หรือมีปัญหาสุขภาพเฉพาะทาง ควรพบผู้เชี่ยวชาญเรอิกิเพื่อช่วยบำบัดร่างกายและจิตใจในเชิงลึก
ข้อควรจำ
- เรอิกิไม่ใช่การรักษาทางการแพทย์โดยตรง แต่เป็นการช่วยเสริมสร้างความสมดุลและการฟื้นฟูร่างกาย
- หากมีโรคหรืออาการทางกายที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย